ออสเตรเลีย ประเทศยอดนิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติในการไปเรียนต่อ มีคอร์สเรียนมากมายให้เลือกเรียน เหมาะสำหรับนักเรียนที่อยากพัฒนาทักษะของตัวเองเพื่อเพิ่มโปรไฟล์ในการกลับมาหางานที่ไทยมีงานพาร์ทไทม์ที่เปิดให้นักเรียนต่างชาติได้ทำหลากหลาย
▸ มหาวิทยาลัยออสเตรเลีย สอบถาม ทุนส่วนลด
▸ โรงเรียนภาษาที่ออสเตรเลีย สอบถาม โปรโมชั่น
▸ โรงเรียนมัธยมอยู่ประจำที่ออสเตรเลีย

เรียนภาษาที่ออสเตรเลีย
ทักมาคุยกันจ้า

ออสเตรเลีย มีเศรษฐกิจที่มั่นคง ชีวิตความเป็นอยู่ก็สบายๆ ไม่เคร่งเครียดที่สำคัญคือระบบการศึกษาของออสเตรเลียมีคุณภาพสูงทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยว่า "ออสเตรเลีย" ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับประเทศที่คนไทยนิยมไปเรียนนักเรียนที่ลงคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสามารถหางานพาร์ทไทม์ทำได้อย่างถูกกฏหมาย *** รายละเอียดการเข้าประเทศออสเตรเลียช่วงนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

"ข่าวดีต้อนรับปี 2025! ออสเตรเลียประกาศปรับสถานะไทยเป็น Level 2 แล้ว"
ตามที่หลายคนทราบกันดี สถานทูตออสเตรเลียได้ปรับลำดับขั้นของประเทศไทยจาก Level 3 ขึ้นเป็น Level 2 เนื่องจากผลการสมัครเรียนในปีนี้ที่มีประสิทธิภาพและอัตราการถูกปฏิเสธเอกสารน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

★ Level ที่กำหนดมีผลอย่างไรในการขอเอกสาร ?
สำหรับนักเรียนไทยที่ต้องการขอเอกสารนักเรียน จะถูกพิจารณาผ่านระบบคัดกรอง Streamlined Student Framework (SSVF) ซึ่งจะจัดลำดับความเสี่ยงของประเทศผู้ขอเอกสารเป็น 3 ระดับ :
- Level 1 : ความเสี่ยงต่ำ
- Level 2 : ความเสี่ยงปานกลาง
- Level 3 : ความเสี่ยงสูง

โดยหากประเทศใดมีระดับความเสี่ยงสูง ผู้สมัครจะต้องเตรียมเอกสารจำนวนมากและกระบวนการตรวจสอบจะเข้มงวดขึ้น การที่ประเทศไทยขยับขึ้นมาเป็น Level 2 จึงถือเป็นข่าวดีสำหรับน้อง ๆ ที่กำลังวางแผนไปเรียนต่อออสเตรเลีย เพราะจะช่วยให้กระบวนการขอเอกสารมีโอกาสผ่านมากขึ้นและเอกสารที่ต้องเตรียมลดลง

นอกจากนี้ ยังมีการปรับระดับความเสี่ยงของสถาบันการศึกษาในออสเตรเลียด้วย ซึ่งน้อง ๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยหรือสถาบันภาษาที่มีการปรับขึ้นเป็น Level 1 และ 2 ได้ที่พี่ Dreamabroad  เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเรียนต่อต่างประเทศ

★ การที่ไทยได้รับการปรับเป็น Level 2 สำหรับการขอเอกสารนักเรียนออสเตรเลียมีข้อดีหลายประการ ดังนี้
กระบวนการขอเอกสารง่ายขึ้น
การปรับไทยเป็น Level 2 หมายความว่าผู้สมัครจะได้รับการพิจารณาในระดับความเสี่ยงที่ต่ำกว่าการอยู่ใน Level 3 ซึ่งทำให้การตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ของผู้สมัครเป็นไปได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เอกสารที่ต้องเตรียมอาจลดลงหรือไม่ต้องมีขั้นตอนที่ซับซ้อนมาก

โอกาสในการได้รับเอกสารมากขึ้น
การที่ประเทศไทยขยับมาอยู่ที่ Level 2 แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาในด้านการศึกษาต่อและการสมัครที่มีคุณภาพ ทำให้มีแนวโน้มที่นักเรียนไทยจะได้รับเอกสารต่อไปได้มากขึ้น เพราะระดับความเสี่ยงต่ำกว่าความเสี่ยงสูง

ความน่าเชื่อถือสูงขึ้น
การที่ประเทศไทยได้รับการปรับขึ้นจาก Level 3 เป็น Level 2 ยังสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือของนักเรียนไทยในการสมัครขอเอกสารต่อออสเตรเลีย ซึ่งอาจช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับการยอมรับจากสถาบันการศึกษาในออสเตรเลียด้วย

ลดอัตราการถูกปฏิเสธเอกสาร
เนื่องจากกระบวนการขอเอกสารที่ง่ายขึ้นและเอกสารที่ต้องเตรียมน้อยลง นักเรียนไทยที่ขอเอกสารออสเตรเลียก็มีโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติเอกสารมากขึ้น

เพิ่มความมั่นใจในการวางแผนการเรียนต่อ
การปรับไทยเป็น Level 2 ยังช่วยให้นักเรียนและผู้ปกครองมีความมั่นใจในการวางแผนและตัดสินใจในการเลือกเรียนต่อที่ออสเตรเลียมากขึ้น เพราะการขอเอกสารเป็นขั้นตอนสำคัญในการเริ่มต้นเส้นทางการศึกษาต่อในต่างประเทศ โดยรวมแล้วการปรับระดับนี้ถือเป็นข่าวดีที่ช่วยให้นักเรียนไทยมีโอกาสเรียนต่อในออสเตรเลียได้สะดวกและง่ายขึ้น!

★ ทำไมควรไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลีย ?
ถ้าน้องๆ กำลังมองหาประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษในต่างประเทศที่สนุกและได้ผลจริง ออสเตรเลียน่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ เพราะนอกจากจะได้พัฒนาทักษะภาษาแล้ว น้องๆ ยังจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย  เรามาดูกันว่าทำไมออสเตรเลียถึงเป็นที่นิยมสำหรับนักเรียนต่างชาติ แล้วเมืองไหนบ้างที่น่าจะเหมาะกับน้องๆ ที่สุด พร้อมทั้งข้อดีและข้อจำกัดของแต่ละเมือง!

★ ออสเตรเลีย มีข้อดี-ข้อจำกัดใดบ้าง ?


✓ หลักสูตรการศึกษาของออสเตรเลียได้รับการยอมรับจากสถาบันชั้นนำ 
✓ สถาบันการศึกษาของออสเตรเลีย มีหลายระดับเหมาะกับนักเรียนไทย
✓ คอร์สภาษาที่ออสเตรเลีย เริ่มตั้งแต่ 2 สัปดาห์ขึ้นไปหลักสูตร 3 เดือน ประมาณ $3,500
✓ คอร์สวิชาชีพ 6 เดือน ถึง 2 ปี ค่าเรียนเฉลี่ยประมาณปีละ $6,500- 8,000
✓ หลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี มีหลายสาขา
หลายคณะยอดนิยมค่าเรียนขึ้นกับความมีชื่อเสียงคุณภาพการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย
ดูรายละเอียด มหาวิทยาลัยออสเตรเลีย
✓ ประชาชนออสเตรเลียมีคุณภาพชีวิตที่ดี
✓ นักเรียนไทยมั่นใจได้ว่านักเรียนไทยจะใช้ชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยอากาศดี
✓ สภาพแวดล้อมเหมาะแก่การศึกษาเหมาะกับการพักอาศัย และเรียนที่ออสเตรเลีย
✓ หลักสูตรดีมีชาวออสเตรเลียเรียนด้วยในหลายหลักสูตร

★ เมืองที่น่าอยู่ที่ติดอันดับ Top 
เมลเบิร์น (Melbourne)
ข้อดี
- เมลเบิร์นเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม และร้านกาแฟสุดชิค ใครชอบงานอาร์ต ที่นี่คือสวรรค์เลย
- สถาบันการศึกษาในเมลเบิร์นก็คุณภาพเยี่ยม ไม่แพ้ซิดนีย์เลย
- เมืองนี้เดินทางสะดวกมาก ด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุม ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางไปเรียน
ข้อจำกัด
- อากาศในเมลเบิร์นเดาไม่ค่อยได้ บางวันมี 4 ฤดูในวันเดียว ใครไม่ชอบอากาศแปรปรวนอาจจะต้องปรับตัวนิดหน่อย
- ค่าครองชีพก็ยังสูงอยู่ แต่ถูกกว่าซิดนีย์นิดหน่อย

ซิดนีย์ (Sydney)
ข้อดี
- ซิดนีย์เป็นเมืองใหญ่สุดคูลที่มีชื่อเสียงระดับโลก สถาบันการศึกษาก็เพียบ น้องๆ มีตัวเลือกเยอะมากในการเลือกเรียนภาษา
- สภาพอากาศดีตลอดปี แถมยังมีหาดสวยๆ อย่าง Bondi Beach และสถานที่ยอดฮิตอย่าง Opera House ให้ไปถ่ายรูปกัน
- เมืองใหญ่ แสงสีครบ  เศรษฐกิจของเมืองนี้ ดีมาก
ข้อจำกัด
- ค่าครองชีพที่นี่สูงเอาเรื่อง โดยเฉพาะค่าเช่าที่พักในเมือง ใครที่งบไม่เยอะอาจต้องหาที่อยู่ไกลออกไปหน่อย
- เมืองนี้คนเยอะและวุ่นวายมาก ใครไม่ชอบบรรยากาศเมืองใหญ่ที่รีบเร่งอาจจะรู้สึกเหนื่อยได้

บริสเบน (Brisbane)
ข้อดี
- บริสเบนอากาศดี อบอุ่นตลอดทั้งปี ใครที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้งอย่างเที่ยวทะเลหรือปีนเขาน่าจะชอบเมืองนี้
- ค่าครองชีพที่นี่ถูกกว่าซิดนีย์และเมลเบิร์น ใครอยากประหยัดงบ เมืองนี้เป็นตัวเลือกที่ดี
- เมืองนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวให้เลือก เยอะ ไม่แพ้เมืองใหญ่ๆ เลย
ข้อจำกัด
- บริสเบนอาจจะไม่คึกคักเหมือนซิดนีย์หรือเมลเบิร์น เหมาะกับน้องๆ ที่ชอบบรรยากาศเรียบง่าย สบายๆ มากกว่า
- กิจกรรมหรือแหล่งบันเทิงอาจจะไม่หลากหลายเท่ากับเมืองใหญ่